หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล (ดูภาพด้านล่าง)
สงบงามในทุกโมงยาม ณ หาดชาวเล
เวลาประมาณ 05.30 น. เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น พวกเราล้างหน้าแค่พอให้ขี้ตากระเด็นหลุดออกไป แล้วรีบคว้ากล้องพร้อมกระเป๋าอุปกรณ์ถ่ายภาพเดินออกจากที่พักซึ่งตั้งอยู่กลางเกาะหลีเป๊ะมุ่งหน้าสู่ “หาดชาวเล” ที่เป็นจุดหมายในการชมพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณทันที
|
|
ยืนทำเท่ห์ที่ "หาดชาวเล" ในยามเช้า
|
|
|
"Sunrise Beach" แห่ง "เกาะหลีเป๊ะ"
|
“หาดชาวเล” เป็นชายหาดเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ ชาวต่างประเทศส่วนใหญ่รู้จักหาดชาวเลในชื่อของ “Sunrise Beach” ในยามเช้านักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะชมพระอาทิตย์ขึ้นทุกๆ คนจึงจำเป็นจะต้องมารวมตัวกัน ณ ด้านหน้าของชายหาดแห่งนี้ ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 15 นาทีก็เดินจากพื้นที่ตอนกลางของเกาะหลีเป๊ะมาถึงหาดชาวเล..........ดูเหมือนว่ารุ่งอรุณครั้งนี้จะมีนักท่องเที่ยวตื่นมารอชมแสงแรกของวันใหม่น้อยกว่าที่พวกเราคาดการณ์เอาไว้ทำให้สามารถหามุมมองปลอดคนในการถ่ายภาพได้ไม่ยากเย็นนัก
|
|
ถ่ายภาพได้สวย เพราะแสงอาทิตย์ช่วยส่งเสริม
|
หลังจากเดินเล่นเตร็ดเตร่ริมชายหาดอยู่สักครู่เล็กๆ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มแย้มพรายฉายประกายแสงสีแสดแดงขับไล่ความมืดมัวสลัวของราตรีให้หนีห่างไป ขอบฟ้าสีเทาหม่นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มไปจนเหลืองทอง พร้อมๆ กับทำให้ท้องนภากว้างเบื้องบนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วจึงกลับเป็นสีฟ้าใสเหมือนช่วงเวลากลางวันตามปกติ นกเหยี่ยว 3 – 4 ตัวบินร่อนถลาลิ่วลมวนเวียนไปมาอยู่เหนือทิวไม้ริมชายฝั่ง ระลอกคลื่นแผ่วๆ เรียงแถวเคลื่อนตัวเข้าหาแนวหาดทรายที่ยาวไกลสุดสายตา เพียงชั่วขณะแค่ไม่กี่อึดใจในยามอรุณรุ่ง ณ หาดชาวเลแห่งนี้ เหล่าอาคันตุกะผู้มาเยือนเกาะหลีเป๊ะก็ได้มีโอกาสรู้สึกถึงความอบอุ่น ความสงบ และความสุขที่พวกเขาเฝ้าถวิลหาจากการเดินทาง
|
|
..........ฟ้า.....เทา.....ขาว.....เหลือง.....ทอง.....แสด.....แดง..........
|
|
|
.........................แสงสีแห่งวันใหม่.........................
|
ในยามสาย.....เมื่อแสงแดดแผดร้อนแรง ทัศนียภาพต่างๆ ของหาดชาวเลก็ปรากฏชัดแจ้งแก่สายตาทำให้พวกเราได้รับรู้ว่าน้ำทะเลด้านหน้าชายหาดแห่งนี้มีสีเขียวมรกตใสแตกต่างจากหาดพัทยา 2 ที่น้ำทะเลเป็นสีเขียวอมฟ้า ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะพื้นทรายใต้น้ำของหาดชาวเลมีความลาดเอียงมากกว่าหาดพัทยา 2 ทำให้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่างสะท้อนกลับออกมาได้น้อยกว่า จึงปรากฏเป็นสีน้ำทะเลที่เข้มกว่านั่นเอง หากใครพาบุตรหลานตัวเล็กๆ มาร่วมท่องเที่ยวเป็นครอบครัวควรใช้ความระมัดระวังในการดูแลบุตรหลานของท่านขณะลงเล่นน้ำบริเวณหาดชาวเลให้ดี (หาดพัทยา 2 มีความลาดเอียงของพื้นทรายใต้ทะเลต่ำกว่าหาดชาวเล อีกทั้งยังมีความรุนแรงของกระแสคลื่นลมน้อยกว่าจึงทำให้เด็กๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยมากกว่าครับ)
|
|
มาดูบรรยากาศของหาดชาวเลในเวลากลางวันกันบ้าง
|
|
|
สุดปลายด้านทิศใต้ของหาดชาวเล มีอ่าวเล็กๆ ที่สงบเงียบแอบซ่อนอยู่
|
ด้วยเม็ดทรายที่มีเนื้อเนียนละเอียดสีขาวบริสุทธิ์ไม่แตกต่างไปจากหาดพัทยา 2 น้ำทะเลใสสีมรกต ร่มเงาของแมกไม้ชายฝั่ง และบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกยามอรุณรุ่งในชั่วขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เผยตัวขึ้นจากเส้นขอบฟ้า เมื่อผนวกเข้ากับความสงบงามซึ่งแทบจะปราศจากการรบกวนของแสง สี เสียง ส่วนเกินที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หาดชาวเลดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้ซึ่งรักในการพักผ่อนแบบเรียบง่าย สบายๆ ไร้การปรุงแต่งจนเกินจำเป็น ตัดสินใจเดินทางมาเยือนชายหาดแห่งนี้อยู่เสมออย่างมิรู้หน่าย หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ชอบการพยายามนอนหลับท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมล่ะก็.....การพักค้างแรมบริเวณหาดชาวเลน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
|
|
หากเดินไปจนสุดปลายแหลมทรายทางด้านทิศเหนือ คุณจะได้พบกับ "Mountain Resort"
รีสอร์ทซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดชมทิวทัศน์จากมุมสูงที่สวยที่สุดของ "เกาะหลีเป๊ะ"
|
|
|
ที่พึ่งทางใจ (กางเขน) กับ ที่พึ่งทางกาย (เรือหางยาวซึ่งใช้ทำมาหากิน)
|
หากเดินเลียบเลาะริมชายหาดชาวเลขึ้นไปจนสุดปลายแหลมทรายทางด้านทิศเหนือคุณจะได้พบกับ “เม้าท์เท่น รีสอร์ท (Mountain Resort)” รีสอร์ทบรรยากาศดีที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมลงความเห็นว่ามีจุดชมทิวทัศน์ในมุมสูงที่สวยงามมากที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ จากจุดชมทิวทัศน์บริเวณด้านหน้าร้านอาหารของ “เม้าท์เท่น รีสอร์ท” คุณจะสามารถมองเห็นแหลมทรายปลายหาดชาวเลด้านทิศเหนือมีลักษณะคล้ายกับอักษรภาษาอังกฤษรูปตัว “J” หรือ “ตะขอ” หรือ “เห็ด” (ตามแต่จินตนาการของแต่ละบุคคล) เมื่อลักษณะภูมิประเทศอันแปลกประหลาดนี้หลอมรวมเข้ากับภาพของน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าและทิวทัศน์ของ “เกาะอาดัง” เบื้องหน้าก็เกิดเป็นความงดงามซึ่งยากจะหาสถานที่แห่งใดมาเทียบเทียมได้
|
|
"เกาะหลีเป๊ะ" มรกตแห่งอันดามัน
|
|
|
......................... Maldives เมืองไทย.........................
|
กลางท้องทะเลกว้างเบื้องหน้าของหาดชาวเลเป็นที่ตั้งของ “เกาะกระ” เกาะเล็กๆ ที่มีแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์วางตัวอยู่โดยรอบ เกาะกระตั้งอยู่ห่างจากหาดชาวเลเพียงแค่ไม่เกิน 200 เมตร ในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือคายักจากรีสอร์ทต่างๆ บริเวณหาดชาวเลพายไปเที่ยวยังเกาะกระได้โดยสะดวก (กรุณาชมภาพถ่ายและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของเกาะกระได้จากหัวข้อ “เกาะกระ – หินขาว” ในตาราง “เกาะสำคัญแห่งอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา” ซึ่งวางอยู่ในหน้าสุดท้ายของบทความชิ้นนี้ครับ)
|
|
เกาะทองหลาง , เกาะกระ , เรือหางยาว และ เกาะตารัง
เมื่อมองจาก "หาดชาวเล" บนเกาะหลีเป๊ะ
|
|
|
.........................ศิลปะจากรากไม้....................
|
ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเดินทอดน่องริมหาดชาวเลปล่อยกายและใจให้ซึมซับความรู้สึกดีดีที่มีอยู่รายรอบจนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 9 โมงเช้า พวกเราจึงเดินกลับไปยังที่พักเพื่ออาบน้ำ แปรงฟัน และเตรียมตัวขึ้นเรือหางยาวออกไปทัวร์ดำน้ำตื้นเป็นคำรบที่สอง วันนี้พวกเราวางแผนที่จะไปดำน้ำบริเวณเกาะหินซ้อน , เกาะดง , เกาะรอกลอย , เกาะผึ้ง , ฯลฯ แล้วจึงกลับมายังเกาะหลีเป๊ะในช่วงเวลาเย็นอีกครั้ง
|
|
แหลมทรายปลายหาดชาวเลด้านทิศเหนือ
|
|
|
มุมมองแบบกว้างไกลสุดสายตาจากบนร้านอาหารของ "Mountain Resort"
|
หาดประมง : Sunset Beach แห่งเกาะหลีเป๊ะ
หลังจากที่ดำน้ำจนผิวคล้ำกรำแดดกันมาตลอดทั้งวัน ในที่สุดพวกเราก็เดินทางกลับมาถึงเกาะหลีเป๊ะเวลาประมาณ 16.50 น. ถึงแม้ว่าจะรู้สึกอ่อนเพลียและเหน็ดเหนื่อยเหลือกำลังแต่ “พี่ต้นหญ้า” หัวหน้าทีมของพวกเราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก ณ “หาดประมง” หรือที่ชาวต่างประเทศรู้จักกันในนามของ “Sunset Beach” ..........เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้มาเยือนจากแดนไกลว่าหากใครอยากชมบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดงจากมุมมองที่สวยที่สุดของเกาะหลีเป๊ะก็ต้องเดินทางมายังหาดประมงแห่งนี้เท่านั้น (หาดประมงเป็นชายหาดซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดทางฝั่งตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะทำให้สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ส่วนหาดพัทยา 2 นั้นแม้ว่าจะมีความยาวมากกว่าหาดประมงหลายเท่าแต่ก็ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศใต้ของเกาะหลีเป๊ะทำให้ไม่สามารถชมพระอาทิตย์ตกลับจากเส้นขอบฟ้าได้ครับ)
|
|
น้ำลงที่ "หาดประมง" ในเวลากลางวัน
|
ทางด้านทิศเหนือของหาดประมงเป็นที่ตั้งของ “เรือนประทับแรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินมายังเกาะหลีเป๊ะเมื่อหลายปีก่อน บริเวณโขดหินใกล้ๆ กับเรือนประทับแรมฯแห่งนี้มีชิ้นงานประติมากรรมขนาดเล็กที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยการนำเอาเปลือกหอยมือเสือและเศษปะการังมาเชื่อมปะติดปะต่อประสานเข้ากันด้วยปูนซีเมนต์ดูงดงามแปลกตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเย็นที่แสงสนธยาสาดส่องมาต้องกระทบกับงานศิลป์ชิ้นน้อยๆ นี้ ก็ทำให้ความโดดเด่นซึ่งมีอยู่แต่เดิมเพิ่มมากเท่าทวีคูณ
|
|
.........................เวิ้งอ่าวอันสวยงาม.........................
|
ไม่ไกลจาก “เรือนประทับแรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เป็นที่ตั้งของ “หน่วยบริหารจัดการประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล” ซึ่งนอกจากจะมีหน้าที่ในการควบคุม บริหารจัดการ และให้ความสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมงแล้ว พื้นที่ของหน่วยบริหารจัดการฯ ยังเปิดเป็นที่พักราคาเยาให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าพักค้างแรมได้อีกด้วย
|
|
"หาดประมง" Sunset Beach แห่งเกาะหลีเป๊ะ
|
|
|
ณ ขณะหนึ่งในห้วงเวลาซึ่งไม่เคยหวนย้อนกลับ
|
ช่วงกลางของหาดประมงมีลักษณะเป็นหาดทรายสีน้ำตาลอ่อน โค้งเว้าคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยวยาวประมาณ 200 เมตร ขนาบด้วยหาดหินทั้งสองฟาก น้ำทะเลสีฟ้าใส มีแนวปะการังกระจายอยู่ทั่วท้องน้ำด้านหน้าชายหาด ในช่วงเวลาน้ำขึ้นนักท่องเที่ยวเพียงแค่สวมเสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำว่ายออกจากฝั่งไปไม่เกิน 20 เมตรก็สามารถชื่นชมความงดงามของแนวปะการังดังกล่าวได้แล้ว (ปะการังที่พบส่วนใหญ่บริเวณด้านหน้าหาดประมง คือ ปะการังโขดขนาดเล็ก แต่ในช่วงเวลาน้ำลงจะไม่สามารถดำน้ำได้เนื่องจากแนวปะการังจะอยู่ใกล้ผิวน้ำมาก)
|
|
.........................คน กับ ธรรมชาติ.........................
|
|
|
.........................ในบรรยากาศยามเย็น.........................
|
น่าเสียดายที่คุณค่าความงดงามของหาดประมงนั้นถูกลดทอนลงไปด้วยเศษขยะซึ่งกระจัดกระจายอยู่ประปรายตามพื้นทรายริมชายหาด แม้ว่าปริมาณขยะ ณ หาดประมงจะไม่ได้มีมากมายจนบดบังทัศนียภาพต่างๆ แต่ขยะบางชิ้นนั้นก็เป็นเศษแก้วแตกที่แหลมคมและอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินเปลือยเท้าเปล่าบนชาดหาดแห่งนี้ได้ไม่ยาก เพราะฉะนั้นพวกเราขอแนะนำว่าควรสวมใส่รองเท้าทุกครั้งที่เดินเล่นไปมาอยู่บริเวณหาดประมงและต้องลงเล่นน้ำด้วยความระมัดระวัง (หากไม่ระมัดระวังอาจโดนเศษแก้วบนพื้นทรายใต้น้ำบาดได้ครับ)
|
|
ในแสงสนธยา มีสาวสวย กับอนุสาวรีย์เปลือกหอยมือเสือ
และ เรือทัวร์ที่กำลังกลับเข้าฝั่ง
|
ยามค่ำคืน..........หาดประมงจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากดวงไฟของร้านอาหารและบาร์เบียร์ซึ่งเรียงรายอยู่เกือบตลอดแนวชายหาด บรรยากาศในแสงสลัวระยิบระยับคลอเคล้าไปกับเสียงเพลงเบาบ้างดังบ้างผสมผสานกับการจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนชวนให้เคลิบเคลิ้ม คือ สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนปรารถนา แต่สำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักความสงบแต่ดันหลงมาหลบพักค้างแรม ณ หาดประมงก็คงจะต้องประสบพบเจอกับวิบากกรรมที่กระทำการจองห้องพักมาแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต่อไป ส่วนใครซึ่งอยากเปลี่ยนที่พักไปอยู่ไกลๆ แหล่งอบายมุข แนะนำให้ไปหาที่ซุกหัวนอนแถวๆ “หาดชาวเล” จะดีกว่ายามค่ำคืน..........หาดประมงจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากดวงไฟของร้านอาหารและบาร์เบียร์ซึ่งเรียงรายอยู่เกือบตลอดแนวชายหาด บรรยากาศในแสงสลัวระยิบระยับคลอเคล้าไปกับเสียงเพลงเบาบ้างดังบ้างผสมผสานกับการจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนชวนให้เคลิบเคลิ้ม คือ สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนปรารถนา แต่สำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักความสงบแต่ดันหลงมาหลบพักค้างแรม ณ หาดประมงก็คงจะต้องประสบพบเจอกับวิบากกรรมที่กระทำการจองห้องพักมาแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต่อไป ส่วนใครซึ่งอยากเปลี่ยนที่พักไปอยู่ไกลๆ แหล่งอบายมุข แนะนำให้ไปหาที่ซุกหัวนอนแถวๆ “หาดชาวเล” จะดีกว่า
|
|
นั่ง.....เอ้อระเหย.....ลอยชาย.....บ๊าย บาย ดวงตะวัน
|
|
|
เอ้า !! รีบกลับให้ถึงฝั่งก่อนพระอาทิตย์ตก.....เร่งเครื่องหน่อยเพื่อน !!
|
เมื่อแสงสุดท้ายของวันอำลาจากไปก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องเดินทางกลับสู่ที่พัก พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะขึ้นเรือหางยาวไปถ่ายภาพ “ซุ้มรักนิรันดร (Lover’s Gate)” บน “เกาะไข่” พร้อมทั้งดำน้ำตื้นสำรวจแนวปะการังโดยรอบ แล้วจึงกลับมาพักค้างแรมบนเกาะหลีเป๊ะอีกครั้งในช่วงเวลาเย็น..........ลาก่อนหาดประมง..........แล้วเราคงจะได้พบกันใหม่
|
|
.........................ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ มากมายให้ลึกซึ้ง.........................
|
|
|
แค่หยุด.....เงียบ.....ฟัง.....สัมผัส และ รู้สึกถึงความสวยงามเหล่านี้ด้วยหัวใจ
.........................ก็เพียงพอ.........................
|
อำลา.....อาลัย
ใครๆ ก็มักจะพูดกันว่า “ในยามที่เรามีความสุข เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ” ......และแล้วช่วงเวลาการเก็บข้อมูล 5 วัน 4 คืนบนเกาะหลีเป๊ะของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ก็ใกล้จะหมดลง ระหว่างนี้พวกเรามีโอกาสได้เดินเท้ากลับไปเยือนชายหาดสำคัญๆ แต่ละแห่งอีกอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง ..........เรื่องราว.....ผองคน.....วิถีชีวิต และความงดงามของธรรมชาติบางส่วนถูกบันทึกเก็บไว้เป็นภาพถ่าย บ้างก็ติดตราตรึงอยู่ในหัวใจกลายเป็นความทรงจำอันแสนสุข...........ถึงแม้ว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจหวนย้อนคืนมา หากแต่คุณค่าจากการเดินทางที่เกิดขึ้นก็คุ้มเกินกว่าจะรู้สึกเสียดายในวันคืนที่ล่วงพ้นไป จากประสบการณ์ของพวกเราทำให้ดูเหมือนแค่คำว่า “สวรรค์ทะเลใต้” จะไม่เพียงพอต่อการบรรยายถึงสิ่งที่ได้ประสบพบเจอ ณ เกาะหลีเป๊ะและบรรดาเกาะอื่นๆ ซึ่งเรียงตัวอยู่รายรอบ ..........ก่อนจะอำลา.....ทีมงานบางคนแอบสัญญากับตัวเองเงียบๆ อยู่ในใจว่า.....ฉันจะต้องกลับมาหาเธออีกครั้ง.....เกาะหลีเป๊ะ.......... (กรุณาชมภาพถ่ายและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของเกาะแห่งอื่นๆ รอบๆ เกาะหลีเป๊ะได้จาก link ในตาราง “เกาะสำคัญแห่งอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา” ทางด้านล่าง สำหรับข้อมูลและภาพถ่ายของ “ปะการัง 7 สี” นั้นจะอยู่ในหัวข้อ “ร่องน้ำจาบัง” ครับ)
|
|
...............ที่แห่งนี้ "หาดประมง เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล"...............
|
เกาะสำคัญแห่งอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
(กรุณาคลิ๊ก “ ชื่อเกาะ” เพื่อชมภาพถ่ายและข้อมูลของแต่ละเกาะโดยละเอียด) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โทรศัพท์ติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา : (074) 783 – 485 , (074) 783 – 597
ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม : เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกๆ ปี (ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 15 พฤศจิกายน ของทุกๆ ปีเป็นช่วงปิดฤดูกาลท่องเที่ยว)
การเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ :มีเรือเฟอรี่/เรือเร็วจากท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล และมีเรือเฟอรี่จากท่าเรือตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ออกเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะทุกๆ วันในช่วงฤดูท่องเที่ยว คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลตารางเดินเรือและติดต่อจองตั๋วเรือล่วงหน้าได้ตาม link ต่อไปนี้ >>>จองตั๋วเรือโดยสาร เกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล , ทัวร์เกาะหลีเป๊ะ
ขอขอบคุณ : ข้อมูลบางส่วนจากพี่ธวัชชัย เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล “เกาะหลีเป๊ะ” เมื่อเดือน ก.พ. 2554 ข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ในปัจจุบัน
|
